บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง : การศึกษาฤทธิ์ต้านปฏิกิริยาออกซิเดชันของสารสกัดเสี้ยวแดงใน การป้องกันการทำงานผิดปกติของไตและหลอดเลือดในหนูเบาหวาน
โดย : พมมะวง ชาลีกาบแก้ว
ชื่อปริญญา : วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชา : เภสัชเคมีและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ
อาจารย์ที่ปรึกษา : สุภารัตน์ คำแดง
คำสำคัญ : สารสกัดใบเสี้ยวแดง ภาวะถูกออกซิไดซ์เกินสมดุลในหนูเบาหวาน การหดตัวของหลอดเลือดแดงใหญ่ การทำงานของไต ความเป็นพิษ
   
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญทำให้ร่างกายเกิดภาวะถูกออกซิไดซ์เกินสมดุลและก่อให้เกิดความผิดปกติของหลอดเลือดทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคแทรกซ้อนต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด และไต งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดหยาบใบเสี้ยวแดง ในการป้องกันการทำงานของไตและหลอดเลือดในหนูเบาหวาน รวมถึงศึกษาความเป็นพิษเบื้องต้น สกัดใบเสี้ยวแดงด้วย 95% ethanol โดยวิธี percolation และแยกสารกึ่งบริสุทธิ์ด้วย column chromatography ทำการทดสอบทางเภสัชเวทเบื้องต้นเพื่อหากลุ่มสารสำคัญที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ จากนั้นทำการศึกษาฤทธิ์ในการป้องกันการทำงานผิดปกติของไตและหลอดเลือด ในหนูขาวที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นเบาหวาน ด้วย streptozotocin (70 mg/kg, iv.) ประเมินการทำงานของหลอดเลือดโดยการวัดค่าการหดตัวสูงสุดของหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ตอบสนองต่อ phenylephrine และการทำงานของไตโดยการวัด blood urea nitrogen (BUN), serum creatinine (SCr) ทุก 2 สัปดาห์ และ creatinine clearance (ClCr) ในสัปดาห์ที่ 6 เปรียบเทียบตัวแปรต่างๆระหว่างหนูปกติ หนูเบาหวานควบคุม และหนูเบาหวานที่ได้รับสารสกัดหยาบใบเสี้ยวแดง (100 หรือ 200 mg/kg) หรือยาลดระดับน้ำตาลในเลือด glyburide (10 mg/kg) หรือสารต้านอนุมูลอิสระ vitamin E (300 mg/kg) ทุกวันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ การศึกษาพิษเฉียบพลันทำโดยการให้สารสกัดหยาบใบเสี้ยวแดงในขนาดต่างๆ ด้วยการป้อนและฉีดเข้าช่องท้องแก่หนูถีบจักรทั้งสองเพศ เพื่อหาค่า LD50 และการศึกษาพิษกึ่งเรื้อรังในหนูถีบจักรทำโดยป้อนสารสกัดในขนาดที่ไม่เป็นพิษติดต่อกันเป็นเวลา 8 สัปดาห์ เปรียบเทียบน้ำหนักตัว น้ำหนักอวัยวะภายใน และค่าเคมีในเลือดระหว่างหนูที่ได้รับสารสกัดหยาบเสี้ยวแดงกับหนูกลุ่มควบคุม ผลการศึกษาพบว่าสารสกัดหยาบใบเสี้ยวแดงที่ได้คิดเป็น 23.45 % ของน้ำหนักผงแห้ง สารสกัดกึ่งบริสุทธิ์ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระแรงที่สุดมีค่า IC50=5.55 g/ml เมื่อทดสอบด้วย DPPH assay โดยสารประกอบหลักที่ออกฤทธิ์เป็นสารกลุ่ม flavonoids คิดเป็น 1.84 % ของสารสกัดหยาบ ผลการประเมินการทำงานของไตพบว่า ระดับ BUN ของหนูกลุ่มเบาหวานควบคุมสูงกว่าหนูปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในทุกสัปดาห์ ระดับ BUN ของหนูเบาหวานที่ได้รับ glyburide, vitamin E, glyburide + vitamin E, glyburide + BP 100 mg/kg และ vitamin E + BP 100 mg/kg ต่ำกว่าหนูเบาหวานกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในสัปดาห์ที่ 2 (P<0.05) และในสัปดาห์ที่ 4 พบว่าระดับ BUN ของหนูเบาหวานที่ได้รับเฉพาะ glyburide + vitamin E เท่านั้นที่ต่ำกว่าหนูเบาหวานควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และไม่พบความแตกต่างระหว่างกลุ่มในสัปดาห์ที่ 6 ระดับ SCr ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติระหว่างหนูปกติและหนูเบาหวานในทุกสัปดาห์ หนูเบาหวานกลุ่มควบคุมมีค่า ClCr สูงที่สุดคือ 7.29±2.57 ml/min และสูงกว่ากลุ่มอื่นๆอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผลของการตอบสนองของหลอดเลือดต่อ phenylephrine พบว่าค่าการหดตัวสูงสุดของหลอดเลือดแดงใหญ่ของหนูเบาหวานควบคุม (ร้อยละ 379.29±41.42) มีค่าสูงกว่าหนูปกติ (ร้อยละ 276.42±37.96) ค่าการหดตัวสูงสุดของหลอดเลือดแดงใหญ่ในหนูเบาหวานที่ได้รับ glyburide น้อยกว่าหนูเบาหวานกลุ่มควบคุมแต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วน vitamin E และสารสกัดหยาบเสี้ยวแดงในขนาด 200 mg/kg สามารถลดค่าการหดตัวสูงสุดของหลอดเลือดแดงใหญ่ในหนูเบาหวานลงได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับหนูเบาหวานควบคุม (ร้อยละ 249.79±75.24 และ 277.13±99.69 ตามลำดับ) การทดสอบพิษแบบเฉียบพลันของสารสกัดหยาบใบเสี้ยวแดงพบว่า การให้สารสกัดทางปากในขนาด 6,000 mg/kg แก่หนูถีบจักรทั้งเพศผู้และเพศเมียไม่ทำให้สัตว์ทดลองตาย (ค่า LD50> 6,000 mg/kg) และเมื่อให้โดยการฉีดเข้าช่องท้องพบว่าขนาดยาที่ทำให้สัตว์ทดลองตายร้อยละ 50 มีค่ามากกว่า 4,000 mg/kg ในหนูถีบจักรเพศผู้ (LD50>4,000 mg/kg) และมีค่าเท่ากับ 2,765.5 mg/kg ในหนูถีบจักรเพศเมีย (LD50 = 2,765.5 mg/kg) ผลการศึกษาความเป็นพิษกึ่งเรื้อรังไม่พบความผิดปกติทางอาการ พฤติกรรม สุขภาพ และการเจริญเติบโตเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม น้ำหนักตัวสัตว์ทดลอง น้ำหนักอวัยวะ ระดับเอนไซม์ ALT, AST, ALP ในซีรัม BUN และ SCr มีค่าไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างกลุ่มที่ได้รับสารสกัดเสี้ยวแดงและกลุ่มควบคุม จากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า สารสกัดใบเสี้ยวแดงมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระที่แรงในหลอดทดลอง แต่มีความสามารถในการป้องกันการทำงานผิดปกติของไตและหลอดเลือดในหนูเบาหวานปานกลาง อย่างไรก็ตามสารสกัดใบเสี้ยวแดงจัดว่าปลอดภัยและไม่มีพิษเมื่อทดสอบในสัตว์ทดลอง
   
ปิดหน้าต่างนี้