บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง : การพัฒนาตำรับน้ำยาบ้วนปากจากสมุนไพรไทย
โดย : กุ้งนาง เยียนเพชร ปนิตา สิทธิพัฒน์พงษ์
ชื่อปริญญา : เภสัชศาสตร์บัณฑิต 5 ปี
อาจารย์ที่ปรึกษา : สุดารัตน์ หอมหวล ศิริมา สุวรรณกูฏ จันต๊ะมา
คำสำคัญ : กระชาย แก้ว ผักคราดหัวแหวน ฤทธิ์ต้านจุลชีพ น้ำยาบ้วนปาก
   
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียในช่องปากและนำมาตั้งตำรับน้ำยาบ้วนปากจากสมุนไพรไทย 3 ชนิด คือ กระชาย (Boesenbergia pandurata Holtt.) แก้ว (Murraya paniculata Jack.) และ ผักคราดหัวแหวน (Spilanthes acmella Murr.) โดยสกัดผงพืชด้วยเอทานอลและน้ำ นำสารสกัดมาทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อจุลชีพเบื้องต้นโดยวิธี agar disc diffusion ต่อเชื้อจุลชีพ 3 ชนิด คือ Streptococcus mutans, Candida albicans และ Lactobacillus casei พบว่าสารสกัดเอทานอลของกระชายมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ S. mutans และ C. albicans ได้ แต่ไม่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ L. casei ส่วนสารสกัดแก้วและผักคราดหัวแหวนไม่สามารถยับยั้งเชื้อได้ การทดสอบหาความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถยับยั้งเชื้อ (Minimum inhibitory concentration= MIC) โดยวิธี agar dilution พบว่าสารสกัดเอทานอลของกระชายสามารถยับยั้งเชื้อ S. mutans และ C. albicans ได้ที่ความเข้มข้นไม่น้อยกว่า 0.625 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร และการทดสอบหาความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถฆ่าเชื้อ (Minimum Bactericidal concentration = MBC) พบว่าสารสกัดเอทานอลของกระชายที่ความเข้มข้น 5 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ C. albicans แต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อ S. mutans ได้ และเมื่อนำสารสกัดกระชายมาพัฒนาเป็นตำรับน้ำยาบ้วนปากโดยใช้สารสกัดเอทานอลของกระชายที่ความเข้มข้น 0.5 % w/v เป็นตัวยาสำคัญร่วมกับองค์ประกอบอื่นๆ ในตำรับ พบว่าตำรับที่ได้มีคุณสมบัติทางกายภาพที่ดีคือ ใส ไม่มีตะกอน มีรสชาดดี และมีความคงตัวเมื่อเก็บไว้ที่เป็นเวลา 2 เดือน ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส
   
ปิดหน้าต่างนี้