บทคัดย่อ

การพัฒนาเจลมาส์กหน้าบำรุงผิวตลอดคืนที่ผสมสารสกัดบัวบกและเบต้ากลูแคนเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นต่อผิวหนัง

นางสาวณัฐชา    จันทรศิริ   

นางสาวฐานิดา เนื่องชมภู  

อุษณา  พัวเพิ่มพูลศิริ 

 วริษฎา  ศิลาอ่อน 

         บทนำ: เจลมาส์กหน้าบำรุงผิวตลอดคืนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคนิยมใช้ เนื่องจากทาง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ และมีความรู้สึกเย็นผิวหน้าเมื่อทา การเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์สามารถทำได้โดยเติมสารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์บำรุงผิวซึ่งสารสกัดบัวบกมีฤทธิ์ต้านออกซิเดชันและสารสกัดเบต้ากลูแคนมีฤทธิ์กักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาเจลมาส์กหน้าที่ผสมสารสกัดบัวบกและเบต้ากลูแคนเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า วิธีการดำเนินการวิจัย: ศึกษาชนิดและปริมาณสารก่อเจลที่เหมาะสม โดยใช้สารก่อเจลกลุ่ม Polyacrylic acid (Carbomer) และ Anionic acrylamide copolymer (Himosap Gas 100) ศึกษาผลของปริมาณเบต้ากลูแคนต่อความสามารถในการเพิ่มความชุ่มชื้น และกักเก็บความชุ่มชื้น โดยวิธี In Vitro Occlusive test และทดสอบการระคายเคืองของตำรับโดยวิธี pH rise of bovine serum albumin และ Hen's Egg Test on the Chorioallantonic Membrane (HET-CAM) ผลการศึกษาวิจัย: ทุกตำรับได้เจลเบสที่มีลักษณะใส ความหนืดของเจลเบสขึ้นกับความเข้มข้น และชนิดของสารก่อเจล pH ของเจลเบสอยู่ในช่วง 5.2-6.9 ความหนืด 1,439– 46,2830 cP ขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมี pH อยู่ในช่วง 5.2-5.5 และความหนืด 9,552- 13,347 cP เมื่อทดสอบการกักเก็บความชุ่มชื้นพบว่าปริมาณเบต้ากลูแคน 3 %w/w ในตำรับ มีประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นมากกว่าเบต้ากลูแคน 5 %w/w อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) และตำรับ Carbopol 940 0.3%w/w เบต้ากลูแคน 3 %w/w มีประสิทธิภาพการกักเก็บความชุ่มชื้นไม่แตกต่างเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด (p>0.05) ผลทดสอบการระคายเคืองพบว่าตำรับ Carbopol 940 0.3%w/w เบต้ากลูแคน 3 %w/w มีการระคายเคืองน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) สรุปผลการวิจัย: ชนิดและปริมาณของสารก่อเจลมีผลต่อลักษณะทางกายภาพ และปริมาณความเข้มข้นของเบต้ากลูแคนมีผลต่อประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นและการระคายเคือง จากการทดลองพบว่าตำรับที่ใช้ Carbopol 940 0.3%w/w เบต้ากลูแคน 3 %w/w เป็นตำรับที่เหมาะสมที่จะถูกนำไปพัฒนาต่อไปเพื่อให้สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าเพิ่มมากขึ้น